วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

แบบทดสอบจิตวิทยา การเดินทางบอกความเป็นคุณ


1. คุณกำลังเดินไปตามทางเดิน แล้วเห็นอะไรอยู่รอบตัว
ก. ป่าทึบ มองขึ้นข้างบนแทบไม่เห็นท้องฟ้า
ข. ทุ่งข้าวโพดเหลืองอร่ามตัดกับสีขอบฟ้า
ค. เนินเขาสีเขียว เห็นภูเขาอยู่ลิบๆ
2. คุณเห็นอะไรตกอยู่ข้างๆ เท้า
ก. กระจก
ข. แหวน
ค. ขวด
3. เก็บมันขึ้นมาไหม
ก. เก็บ
ข. ไม่เก็บ
4. เดินต่อไปเจอแหล่งน้ำ แหล่งน้ำที่ว่าคือ…
ก. ทะเลสาบใส
ข. น้ำตก
ค. ลำธาร


5. กุญแจที่จมอยู่ในน้ำซึ่งคุณกำลังจะเก็บขึ้นมานั้นมีลักษณะอย่างไร
ก. กุญแจบ้าน
ข. กุญแจโบราณ
ค. กุญแจล็อคเกอร์เล็กๆ
6. ต่อมาเจอะบ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนั้นเป็นบ้านแบบไหน
ก. แมนชั่นหรูแบบละแวกฮอลลีวู้ด
ข. กระท่อมพร้อมสนามหญ้า
ค. ปราสาทสวยโทรมๆ
7. แล้วทำยังไงต่อ
ก. มองเข้าไปทางหน้าต่าง
ข. เข้าไปสำรวจ
ค. ไม่สน… แล้วเดินต่อไป
8. ทันใดนั้นก็มีบางอย่างกระโจนใส่ ทำให้คุณตกใจ สิ่งนั้นคือ
ก. หมี
ข. พ่อมด
ค. เหยื่อที่ใช้ตกปลา
9. ด้วยความตกใจคุณจึงวิ่งไปจนถึงกำแพงมีประตูคุณจึงมองลอดรูกุญแจก็เลยเห็น
ก. สวนเขียวขจีในบริเวณบ้านหลังหนึ่ง
ข บ่อน้ำกลางทะเลทราย
ค. ชายหาดและเกลียวคลื่น 



**********************วิเคราะห์*********************

คำถามที่ 1 ทัศนคติของคุณเกี่ยวกับตัวเอง
ก. คนอื่นมองว่าคุณเป็นคนที่น่าสนใจเพราะคุณปกปิดตัวตนที่แท้จริง เพื่อนๆรักคุณเพราะคุณเป็นนักฟังที่ดี
ข. เป็นคนฉลาด ซื่อสัตย์และน่ารักเป็นมิตรกับทุกคนและไม่ค่อยมีเรื่องกับใครแถมยังเป็นตัวแทนของความร่าเริงสนุกสนาน ใครๆจึงมักจะเข้ามาพูดคุยด้วย
ค. เป็นคนติดดิน และผู้คนเขาก็รักคุณเพราะนิสัยเป็นคนตรงๆ นี่แหละคุณคือนักไกล่เกลี่ยปัญหาเพราะคุณจะรับฟังความของทั้งสองฝ่ายก่อนตัดสินว่าใครถูกใครผิด
คำถามที่ 2 ลักษณะของคู่รักที่คุณมองหา
ก. แฟนคุณต้องเป็นคนที่จะร่วมชีวิตกันในอนาคต แต่คุณควรเปิดใจให้กว้างเพราะเขา/เธอที่สมบูรณ์ตามแบบของคุณ อาจไม่ค่อยมีเสน่ห์มากนัก
ข.คุณป็นคนโรแมนติกยามรักก็จะทุ่มเทเพื่อถนอมรักไว้ให้ดีที่สุดเพราะคุณเชื่อว่ารักแท้จะคงอยู่ตลอดกาลและคุณก็อยากให้แฟนห่วงใยดูแลคุณเสมอ
ค. คุณชอบคนที่กล้าแสดงความเก่ง ทะเยอทะยาน และ จริงจัง ฉะนั้นพวกหล่อ/สวยอย่างเดียวน่ะ ไม่ผ่าน
คำถามที่ 3 ความพร้อมที่จะผูกมัดกับใครซักคน
ก. ถ้าใช่ก็ได้เลย
ข. ดูใจกันไปเรื่อยดีกว่า
คำถามที่ 4 รักคุณซึมลึกขนาดไหน
ก. คุณจริงจังกับความสัมพันธ์เอามากๆ ถ้าพบคนที่ใช่คุณก็จะรักเขา/เธอคนนั้นสุดหัวใจ
ข. เพศตรงข้ามคิดว่าคุณเซ็กซี่มากเพราะคุณหว่านเสน่ห์เก่ง ชาย/หญิงมากมายจึงพากันหลงใหลคุณ
ค. ทักษะการจีบของคุณเป็นเลิศ คุณจึงเปลี่ยนคู่ควงได้ไม่ซ้ำหน้า
คำถามที่ 5 ความสำคัญของการศึกษา
ก. การศึกษาสำคัญน้อยกว่าโลกภายนอกที่รออยู่เบื้องหน้าลึกๆแล้วคุณอาจจะอยากเริ่มทำงานและออกมาอยู่เอง
ข. การศึกษาสำคัญที่สุดคุณอยากเรียนหนักๆจะได้ซึมซับความรู้ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ค. คุณอาจจะไม่ชอบเรียน แต่มีความคิดดีๆมากมายคุณเชื่อสัตชาตญาณและสมองของตัวเองฉะนั้นคุณอาจลงเอยด้วย อาชีพที่ไม่เหมือนใคร
คำถามที่ 6 งานเหมาะๆ
ก. คุณมีเป้าหมายเยอะและพยายามทำทุกอย่างสุดๆงานที่ชอบจึงต้องเป็นงานที่ได้แสดงพลัง คุณปรารถนาความสำเร็จอย่างที่สุด
ข. คุณยึดหลักความเป็นจริงในการเลือกอาชีพและมุ่งมั่นจะเติบโตในสายงานที่คุณเลือก
ค. อาชีพที่คุณฝันไว้เป็นไปได้ยากในชีวิตจริง น่าจะมองๆหาอะไรใกล้ตัวทำไปก่อนดีกว่า ไม่งั้นอาจเศร้า
คำถามที่ 7 ความสำเร็จมีความหมายแค่ไหน
ก. คุณกลัวล้มเหลว เลยไม่กล้าเริ่มต้น จงอย่าเพิ่งยอมแพ้เสียตั้งแต่ยังไม่ลงมือทำ
ข. คุณมั่นใจว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จ เพราะจะไม่มีสิ่งไหนมากั้นขวางคุณได้
ค. ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องใหญ่คุณพอใจในสิ่งที่มีอยู่และชอบที่จะอยู่กับคนที่คุณรัก มากกว่าจะทุ่มชีวิตไปกับการงานหรือดำรงตำแหน่งสูง
คำถามที่ 8 คุณกลัวอะไรมากที่สุด
ก. คุณกลัวที่จะไม่มีใครให้พึ่ง หรือกลัวเลี้ยงตัวเองไม่ได้
ข. คุณกลัวในสิ่งที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ ดังนั้นเพื่อกลบเกลื่อนคุณก็เลยใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินไปบ้าง
ค. คุณเป็นห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองในสายตาคนอื่นเอามากๆ จึงพยายามสุดชีวิตที่จะได้รับการยอมรับจากผู้คนคุณต้องเชื่อในการตัดสินใจของตัวเองบ้างแล้ว
คำถามที่ 9 ตัวตนของคุณคือ…
ก. คุณเป็นผู้ใหญ่มีความคิดความอ่าน ซื่อสัตย์ กล้าแสดงความเห็นผู้คนจึงมาขอคำปรึกษาในเรื่องต่างๆ แต่คุณอาจแย่ถ้าเจอปัญหาที่ต้องใช้หัวใจมิใช่สมอง
ข. คุณต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะชอบอยู่กับความคิดของตัวเองและมักจะแว่บหายยามเข้าตาจน แต่คุณจะรู้สึกดีขึ้นถ้าระบายกับคนที่คุณไว้ใจซะบ้าง
ค. คุณเป็นคนที่เต็มที่กับชีวิตและกล้าแสดงออก แต่เดาอารมณ์ยากและเปลี่ยนความคิดได้เรื่อยๆ บางครั้ง คุณก็เหมือนมหาสมุทร…สงบได้…แต่ไม่นาน

แบบทดสอบจิตวิทยา 3 ข้อ แห่งการเดินทาง


ง่ายๆสั้นๆ 3 ข้อ เขียนใส่กระดาษไว้ แล้วค่อยอ่านเฉลยนะจ๊ะ
...
ข้อ 1 คุณกำลังเดินทางกลับบ้าน หิวข้าวนิดหน่อย แล้วเดินผ่านสวนสาธารณะแห่งนึง โอว เป็นช่วงเวลาออกดอก กลิ่นดอกไม้อะไรช่างหอมหวลอบอวลเช่นนี้ ย้ำว่าคุณได้กลิ่นที่หอมมากๆๆจริงๆ คุณเหลือบไปมอง โอ้ว นอกจากหอมแล้วยังสวยอีกด้วยอ่ะ คุณจะ
ก. แวะเข้าไปชื่นชมมวลหมู่ไม้ในสวนซักหน่อย แล้วเด็ดกลับบ้านซักนิด (เค้าไม่ได้ห้ามไว้นะ) ถ้าติด MP3 เข้าไปด้วยก็เปิดเล่นเป็นพระเอกนางเอกมิวสิคเลย ได้ยินคนเดียวอยู่แระ โหะๆ
ข. ก็หยุดยืนดมๆ มองๆ ซาบซึ้ง สักหน่อย ก็มีความสุขละ
ค. เดินเข้าไปเด็ดกลับบ้านไปดมต่อ อิอิ
ค. อื้ม กลับบ้านกินข้าวก่อนดีกว่า
...
ข้อ 2 ถ้าคุณจะเดินทางไปทะเลทรายเนี่ย คุณจะเอารองเท้าไปกี่คู่
อัตนัยนะ กี่คู่ก็ได้
..
ข้อ 3 คุณเดินทางไปกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ร้อนๆๆ คอก็แห้งผาก นึกสภาพที่คุณเคยร้อนที่สุดน่ะ พอเจอแหล่งน้ำ แลดูสดชื่นเย็นเจี๊ยบๆ คุณจะทำไง
ก. ก็ค่อยๆกวักขึ้นมาลูบหน้า หาอะไรมาตักน้ำ
ข. ไม่ไหวละ ตวัดน้ำขึ้นมาเลย ล้างหน้าล้างตัวด้วยหน่อย
ค. ยิ่งกว่าไม่ไหวอ่ะ โดดตูมลงไปเลย ทั้งกินทั้งอาบมันทีเดียว
...




เอายัง

เฉลยเลยนะ

1. สื่อถึงวิธีการรับมือกับความรักครั้งใหม่ เหตุผลที่คุณมีต่อความรัก
ตอบข้อ ก วิธีการรับมือกับความรักของคุณก็คือ คุณจะปล่อยให้ความรักและอารมณ์รักของคุณท่วมท้น คุณจะเป็นคนที่มีความสุข และมีความฝันอันหอมหวานทุกครั้งที่เข้าสู่ความรัก ทั้งยังเป็นคนที่ตกหลุมรักโดยง่าย ข้อควรระวังคือบางครั้งมันก็ท่วมท้นซะจนไม่ฟังอะไรใครเลย เวลาสุขก็สุขมากๆ เมื่อเวลาผิดหวังก็จะผิดหวังมากๆ คุณต้องรู้จักดึงตัวเองหรือฟังคนอื่นไว้มั่งละ
ตอบข้อ ข คุณเป็นคนที่มีเหตุผลอยู่ในตัวเอง คุณจะรู้จักยับยั้งชั่งใจหากคุณคิดว่าคนที่คุณปิ๊ง ไม่เหมาะสมกับคุณ คุณมักมีความยืดหยุ่นอยู่ในความคิดและสิ่งนี้ก็ทำให้คณมักสมหวังในความรัก
ตอบข้อ ค คุณเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีทีเดียว มักตอบรับมิตรภาพจากคนทั่วไปหมด พวกคุณบางคนไม่จริงจังกับความรักนัก ก็จะคบๆเลิกๆ แต่ไม่ลึกซึ้ง แต่ในคุณที่จริงจังกับความรักมักต้องคอยแก้ปัญหารถไฟชนกันให้ปวดหัวเลยหละ
ตอบข้อ ง คุณเป็นคนที่ยึดถือตัวเองเป็นหลัก จะตกหลุมรักใครนะเหรอ ก็อยู่ที่คุณหมดแหละ ที่จะอกหักน่ะ เมินซะเถอะ แต่ขอบอกแกร่งมากไประวังไม่ทันรถด่วนขบวนสุดท้ายนะจ๊ะ

2. สือถึงความมั่นใจในตัวเองค่ะ
ง่ายๆเลย 1 คู่คือเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ยิ่งจำนวนคู่เยอะขึ้นก็ยิ่งแสดงความมั่นใจน้อยลง
ในด้านของความรัก ยิ่งรองเท้าน้อยยิ่งมั่นใจในความรักและไม่เคยกลัวความผิดหวัง

ข้อ 3 สื่อถึงเรื่องทัศนคติเกี่ยวกับ Sex ค่ะ ว่าคุณมีความยับยั้งชั่งใจได้มากแค่ไหน ก็เรียงกันไปตาม ก ข ค เลยนะจ๊ะ
ข้อ ก คือมีความยับยั้งชั่งใจสุด
ข้อ ข ขึ้นอยู่กับเหตุการและบุคคล
ข้อ ค เฉลยเองได้เรย...
...

ตรงไม่ตรงยังไง ฝากความคิดเห็นไว้มั่งนะคะ

แบบทดสอบจิตวิทยา นิสัยคุณ คือ สารตัวไหน ?




วิธีทำแบบทดสอบ
i. เขียนตัวเลขข้อทุกข้อ ที่รู้สึกว่าใช่ตัวคุณ
ii. แล้วนำไปเช็คกับตารางที่จะใส่ไว้ท้ายสุด อย่าพึ่งดูก่อนนะคะ
iii. เมื่อเช็คกับตารางแล้วก็นับตัวอักษรว่าได้แบบไหนมากที่สุด ก็จะรู้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน
เรามาเริ่มทีละขั้นตอนค่ะ
UploadImage i. มาเริ่มเลือกกันเลย เตรียมปากกา กระดาษ อ่านข้อ 1-45 เขียนตัวเลข ทุกข้อ ที่รู้สึกว่าใช่ตัวคุณ เช่น ข้อ 1 ตรง ก็บันทึกข้อ 1 ไว้(ยอมรับตัวเองกันหน่อยนะ อิอิ)
1. เวลาชอบใครหรือแค่แอบปิ๊ง คุณก็คิดไกลเผื่อใจไปถึงตอนที่เลิกกันซะแล้ว
2. คุณมักจะเบื่อความซ้ำซากของหวานใจ ที่ชอบชวนไปเดทแต่ที่เดิมๆ
3. เคยรู้สึกเหมือนว่า มีคนเดินตามอยู่ข้างหลัง ทั้งที่ไม่มีใคร
4. ต้องลงแดงแน่ๆ ถ้าวันไหนไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ซักกะครั้ง
5. ชอบเรื่องตื่นเต้นผจญภัย เพราะมันทำให้ชีวิตมีรสชาติ
6. เป็นพวกนอนหลับยาก
7. เจ็ทสกีหรือบันจี้จัมพ์ คุณรู้สึกว่าตัวเองน่าจะเล่นได้นะ
8. ถึงคำชมไม่ใช่สตางค์ แต่ก็อยากได้ยินบ่อยๆ
9. ถ้าทั้งวันไม่ได้พูดกับใคร ต้องท้องเสียเพราะน้ำลายบูดแน่ๆ
10. เป็นคนตัดสินใจรอบคอบ แต่มักโดนเพื่อนว่า ว่าเป็นพวกย้ำคิดย้ำทำซะงั้น
11. ชอบทำตัวสะดุดตา เป็นเจ้าแม่ปาร์ตี้ตัวจริงเสียงจริง
12. บางทีก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา อย่างกับว่ามีคนแอบกินแรง
13. เมื่อมีความคิดไม่ตรงกัน คุณพร้อมเสมอที่จะเถียง ถึงจะเสี่ยงต่อการทะเลาะก็เหอะ
14. ความรู้สึกของคุณอ่อนไหว แต่บางทีก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเหมือนกันนะนี่
15. วันหยุดแทบไม่เคยอยู่บ้าน เพราะอยู่แล้วร้อนรุ่มไงไม่รู้
16. คุณขอลาป่วยแน่ๆ ถ้าจะต้องออกไปพูดที่หน้าเสาธง(นักเรียน) หรือ ห้องประชุมใหญ่ๆ (คนทำงาน)
17. ไม่เคยรังเกียจเรื่องการมีกิ๊ก
18. เป็นประชาสัมพันธ์ที่ดี ยิ่งเป็นเรื่องลับๆของชาวบ้านไม่พลาดแน่ เม้าส์กระจาย
19. สามารถพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก เรื่องอกหัก ได้เสมอแหละ
20. บางทีก็ยอมฝืนใจทำอะไรที่ไม่อยากทำ เพื่อความสบายใจของคนอื่น
21. ไม่เคยไปโรงเรียนสายเลย
22. เป็นคนมีโลกส่วนตัว และไม่ค่อยชอบให้ใครมาวุ่นวาย
23. เป็นโรคแพ้พวกเครื่องเล่นหวาดเสียวตามสวนสนุก
24. ถ้าเพิ่งทะเลาะกับแฟนหรือกับเพื่อนมาหมาดๆ วันนั้นทั้งวันจะเรียน/ทำงานไม่รู้เรื่อง
25. คุณเบื่อพวกคนดี๊….คนดี มีน้ำใจ เพราะรู้สึกว่าเสแสร้งแกล้งตบตา
26. จะรู้สึกหดหู่ใจถ้ารู้ว่าเพื่อนไปเที่ยวกัน โดยไม่ยอมชวนคุณ
27. ไม่รู้ว่าการลงทะเบียนจดหมาย หรือส่ง EMS เค้าทำกันยังไง
28. ชอบคุยกับคนท้องถิ่นหรือแม่ค้าเวลาที่ไปเที่ยวต่างจังหวัด
29. สำหรับคุณเรื่องกินมาก่อนเรื่องอื่น
30. มักจะเก็บเรื่องมาคิดมาก ถ้าเผลอทำอะไรที่ผิดพลาดลงไป
31. มีสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัวและก็น่ารักมาก
32. เป็นพวกบ้าเห่อ เวลาที่ต้องเจออะไรใหม่ๆ จะรู้สึกตื่นเต้นเป็นสเปเชียล
33. เคยรู้สึกปวดตึงที่ต้นคอ หรือเมื่อยล้าเพราะว่าเครียดๆๆ
34. มักมองโลกและคนอื่นในแง่ดีก่อนเสมอ
35. รู้สึกกระวนกระวายถ้าเพื่อนรักยังนอนซมอยู่ในห้องพยาบาล
36. มีเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนเพียบจนนับไม่ไหว
37. ชอบลองสินค้าใหม่ๆ ที่เพิ่งลงโฆษณาเป็นประจำ
38. ถึงใครจะบอกบ่อยว่าคนนี้น่ะฉันจอง แต่คุณก็ยังไม่แคร์
39. ชอบรู้สึกว่าจะต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับตัวเองประจำ
40. ขอคุยกับใครก็ได้ มากกว่าจะให้อ่านหนังสือเงียบๆอยู่คนเดียว
41. มีงานคอนเสิร์ตทีไร จะต้องแดนซ์กระจายทู้กที
42. ชอบไปเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำของเดิม
43. ไม่เคยเสียดายถ้าจะต้องหมดเงินไปแล้วได้ความสวย ความหล่อ ความน่ารัก มาแทน
44. ถ้าทำอะไรผิดพลาด มักจะโทษตัวเองเป็นอันดับแรก
45. หลับตาไม่เคยได้ ถ้าพรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวแล้วเอิง…เอย 
 
UploadImage  ii. เช็คดูว่าเลขข้อที่คุณเลือก ตรงกับอักษรใด A B หรือ C บันทึกไว้ เช่น คุณมีข้อ 1 = A เขียน A ไว้ มีข้อ 3 = C เขียน C ไว้ ไปเรื่อยๆจนหมดข้อที่คุณเลือก
UploadImage
  
UploadImage  iii. นับดูตัวอักษร แล้วดูว่าตัวไหนได้มากที่สุด แล้วดูการวิเคราะห์สารในตัวคุณได้เลย

 ได้อักษร A มากที่สุด
"คนน่ารัก"
คุณมีสารสื่อประสาท Noradrenaline มากเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้คุณมองโลกในแง่ดี เข้าสังคมเก่ง ฉลาด มีสัณชาตญาณในการอ่านใจคนอื่นได้ และรู้จักเอาใจใส่ มีน้ำใจช่วยเหลือ ใส่ใจในปัญหาของคนอื่น ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ๆคนอบอุ่นอย่างคุณ และมองว่าคุณมีนิสัยน่าคบหา แต่ข้อเสีย คือ คุณทำอะไรคนเดียวไม่ค่อยจะได้ บางทีก็คอยพึ่งพา นอกจากนี้ยังมีความอ่อนไหว ทำให้ต้องการการยอมรับจากคนอื่นมากไปหน่อย ก็ต้องหัดดูแลตัวเองเข้มแข็งให้มากกว่านี้หน่อยนะคะ
...
 ได้อักษร B มากที่สุด
"คนใจกว้าง"
เป็นคนที่มีสารสื่อประสาท Dopamline มากกว่าตัวอื่น ทำให้มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัย คุณจะเป็นคนใจกว้าง ยอมรับสิ่งต่างๆได้ง่าย แต่การปรับตัวง่ายของคุณกับสิ่งต่างๆอย่างไวก็อาจทำให้เหมือนเป็นคนเฉยชา ไม่ค่อยจะรู้สึกตื่นเต้นกับอะไรซักเท่าไหร่ และเป็นคนที่เบื่ออะไรง่ายมากๆ บางทีจึงถูกมองว่าจับจดในบางเรื่อง นอกจากนี้ ยังเป็นพวกอยากได้อะไรต้องได้ แต่ถ้าเบื่อก็ทิ้งแบบไม่เสียดาย เกิดอาการกระเป๋าฟีบได้บ่อยมากกว่าคนอื่น รู้อย่างนี้แล้ว ก็คอยระมัดระวังส่วนนี้ไว้บ้างนะคะ
...
 ได้อักษร C มากที่สุด
"คนจริงจัง"
นิสัยของคุณถูกควบคุมด้วยสารสื่อประสาท Serotonline ซึ่งจะทำให้คุณเป็นคนจริงจัง มีความรับผิดชอบสูงมาก ใช้เหตุผลในการตัดสินใจมากกว่าอารมณ์ มีความยุติธรรม ไม่เอาเปรียบใคร แต่คุณค่อนข้างขี้ระแวง บางทีก็มองโลกในแง่ร้าย ลังเลในการตัดสินใจ ถ้าเผลอทำเรื่องผิดพลาดลงไป ก็มักคิดมาก นอกจากนี้ยังมักปิดบังซ่อนความรู้สึกของตัวเองไว้ เรียกได้ว่าสะสมความเครียดเป็นคอลเลกชั่นส่วนตัวเลยทีเดียว ต้องหัดทำใจปล่อยวาง ทำตัวสบายๆบ้างนะคะ
...

แบบทดสอบจิตวิทยา วัดความแข็งแรงของสุขภาพจิต


หากระดาษมาจดคำตอบเลยจ้า
1. เธอ ชอบมั้ยกับการที่มีแต่ใครๆ มาห้อมล้อมรุมรักเธอ
A ชอบดิ เหมือนดาราดีอ่ะ
B โอ๊ย! ยุ่งอารายกะชั้นนักหนา
2. เธอคิดว่าไม่ว่าจะเจอเรื่องแย่แค่ไหน....ก้ต้องมีสิ่งดีๆมาหาเธอเสมอ 
A แน่นอนชีวิตใครจะหดหู่อยู่ตลอด
B โอ้ไม่แน่นอน โลกนี้โหดร้ายกับฉันเสียจิง
3. เธอคิดว่าถ้ามีเรื่องแย่ๆ แค่ไหนก็ตามเกิดขึ้นในอนาคตเธอจะสามารถผ่านมันไปได้ด้วยดี 
A ปล่อยมันไปเดี๋ยวก้อดีเอง
B ไม่แน่ใจว่าจะรับได้แค่ไหน
4. เธอคิดว่าวิถีชีวิตที่เธอได้เธอเป็นอยู่ตอนนี้ดีสุดๆ 
A แค่นี้ก็ OK น่ะ
B ก็ลุ่มๆ ดอนๆ ยังไงก้ไม่รู้
5. เธอมีเพื่อนสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่องหรือป่าว
A แน่นอนเพื่อนซี้มีคนเดียวก็เกินพอ
B ชอบมีเพื่อนเป็นกลุ่มมากกว่าอบอุ่นดี
6. เธอรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเวลาตื่นนอนตอนเช้า 
A สดชื่นทุกวัน แม้ว่าเป็นวันที่น่าเบื่อ
B ไม่รู้เป็นไร สดชื่น เฉพาะเสาร์อาทิดย์เท่านั้น
7. เมื่อมีปัญหาเธอคิดเสมอว่ามันต้องมีทางออกของมันเอง
A ทุกอย่างมีทางออกของมันเอง
B ไม่เสมอไป บางอย่างเราก้อแก้ไขไม่ได้เอง
8. เธอคิดว่าตัวเองมีข้อดีที่น่าภูมิใจ 
A แน่นอน ไม่เข้าข้างตัวเองแล้วจะไปเข้าข้างใคร
B ไม่เลย รู้สึกทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง
9. เธอเคยฮัมเพลงเวลาอาบน้ำบ้างหรือป่าว
A แน่นอนเทสเสียงไปในตัว
B ไม่อ่ะ อายตัวเองจิงๆ
10. เธอมีจุดมุ่งหมายในใจอยู่เสมอ
A เป้าหมายในชีวิตวัดความสำเร็จ
B คิดแค่วันนี้ตอนนี้อย่างเดียวเท่านั้น
11. เธอมีความสุขกับการวิ่งตามความฝันของตัวเอง 
A ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึงด้วย
B รู้สึกว่าความฝันห่างไกลเหลือเกิน
12. เคยมั้ยบางวันแค่มองดวงจันทร์ก็ยืนอมยิ้ม 
A เคยสิ โรแมนติกยังไงก้ไม่รู้
B อยู่ไหนเหรอดวงจันทร์ ไม่เห็นมานานแล้ว
13. เธอปวดหัวบ่อยๆ โดยไม่มีสาเหตุหรือป่าว 
A ปวดเฉพาะเป็นหวัดคัดจมูก
B ปวดเป็นงานอดิเรกเชียว
14. เดี๋ยวนี้ชอบเม้าท์แตกเรื่องชาวบ้านหรือป่าว 
A ไม่เลย เรื่องชาวบ้านเราไม่เกี่ยว
B ไม่รู้เป้นไรเห็นใคร ก็คันปากไปหมด
15. เดี๋ยวนี้ขี้หลงขี้ลืมหรือป่าว
A ไม่น่ะ ปกติดี
B นั่นสิ ป้ำๆ เป๋อๆ ยังไงก็ไม่รุ้
16. นอนหลับสบายดีมั้ย 
A หัวถึงหมอนก็นอนฝันหวาน
B นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย
17. พักนี้เธอบ่นอยากไปไหนไกลๆ รึป่าว
A อยากไปกะเพื่อนๆ เฮฮาปาร์ตี้
B อยากไปที่ไหนก็ได้คนเดียว ในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก
18. เธอรู้สึกเหนื่อยง่าย แม้ทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ 
A ไม่เลย แข็งแรงทนทานดีอยู่
B นั่นสิเหมือนแก่ก่อนวัยยังไงก็ไม่รู้
19. เดี๋ยวนี้เธอทะเลาะกับคนรอบข้างถี่เกินไปรึป่าว
A ไม่น่ะออกจะรักกันจี๋จ๋า
B นั่นสิ เจอใครก็เหม็นหน้าไปหมด
20. ช่วงนี้ทำอะไรไม่ค่อยจะมีสมาธิเลยจริงๆ 
A ปกติ (อ่านหนังสือแล้วจำไม่ได้ยังไงก็เป็นอยู่อย่างนั้น)
B รู้สึกเนือยๆ ไม่ค่อยตั้งใจทำอะไรเลย

อ่ะนับเลยจ้า ว่ามี A กี่ข้อ
ถ้าเลือกข้อ A ต่ำกว่าสิบข้อ
ชมรมความเครียดยินดีต้อนรับ แหมหนุ่มน้อยสาวน้อยเอ๋ย รู้สึกเธอจะเครียดเกินไปแล้วนะ อายุก็เท่านี้เองจะซีเรียสกับชีวิตไปไย เธอต้องหาเวลาเพื่อผ่อนคลาย หรือหาสาเหตุที่ทำให้เธอเครียด ขืนปล่อยเอาไว้จะทำให้เธอเสียสุขภาพจิตได้
ถ้าเลือกข้อ A ตั้งแต่ 10-15 ข้อ
สุขภาพจิตของเธออยู่ในระดับปกติ แต่ก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะเครียดได้ถ้ามีอะไรมากระตุ้น หรือมีเรื่องมากระทบจิตใจเธอ ทางที่ดีพยายามเตือนตัวเอง "ไม่เอาน่าอย่าเครียดๆ"
ถ้าเลือกข้อ A มากกว่า 15 ข้อ
เย้! ดีใจด้วยน่ะที่ไม่ต้องเข้ามาอยู่ในชมรมคนเครียด สุขภาพจิตของเธอแข็งแรงดี มีความสุขในชีวิตปัจจุบันตามสภาพ สามารถแก้ไขข้อคับข้องใจและปัญหาเฉพาะหน้าได้ ยอมรับความเป็นไปต่างๆที่เกิดขึ้นได้ง่าย ทำให้มีความสุขกับการใช้ชีวิต
...

แบบทดสอบจิตวิทยา บอกนิสัย และ บุคลิกภาพ บทบาทของคุณในสังคม




หยิบปากกาและกระดาษขึ้นมาจ้า จดตัวอักษรตัวหน้าที่ได้ไว้นะคะ เลือกข้อที่ใกล้เคียงมากที่สุดนะ นำตัวอักษรภาษาอังกฤษหน้าข้อที่เลือกมาเรียงกันไว้

1.บุคคลิกภาพของคุณเป็นอย่างไร? 
(I) ชอบสันโดษ, คิดก่อนทำ, มีแรงบันดาลใจหรือความคิดจากตัวเองเป็นใหญ่
(E) ชอบเข้าสังคม, ชอบไปงานสังสรรค์, ทำก่อนคิด, มีแรงบันดาลใจหรือความคิดจากคน สิ่งของ, สิ่งแวดล้อมเป็นส่วนใหญ่
2.เมื่อคุณมีข้อมูลที่ต้องพิจารณา คุณจะพิจารณาข้อมูลเหล่านั้นอย่างไร?
(S) ดูถึงรายละเอียดของข้อมูล, ดูถึงปัญหาปัจจุบัน, ดูถึงหลักความเป็นจริง
(N) ดูถึงภาพรวมหรือข้อสรุปของข้อมูล, คาดการณ์ล่วงหน้า, ดูถึงความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้น
3.คุณใช้อะไรในการตัดสินใจกับปัญหา?
(T) ใช้เหตุผลในการตัดสินใจ, ใช้หลักตรรกวิทยาความถูกต้อง, คิดถึงผลที่จะตามมาจากการตัดสินใจ
(F) ใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ, ตัดสินใจจากความชอบ, ความต้องการ, คิดถึงความต้องการ และการตอบสนองของตน
4.คุณมีวิธีการดำเนินชีวิตอย่างไร?
(J) ชอบวางแผนในการใช้ชีวิตประจำวัน, ชอบตั้งเป้าหมาย ระยะเวลา วันที่ในการทำ, ชอบตัดสินใจเพื่อให้จบปัญหา
(P) ยอมรับการเปลี่ยนแปลงกับสิ่งรอบตัว, ไม่ยึดติด, มีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์, รับฟังความคิดผู้อื่น
v
v
v
วิเคราะห์
v
v
v

ISTJ = The Duty Fulfiller "ผู้สำเร็จ" 
- มีสมาธิสูง, เงียบขรึม, รักครอบครัว
- ละเอียด, จริงจัง และไว้ใจได้
- ทำงานหนัก, เจ้าระเบียบ และมีความรับผิดชอบสูง
- อาจจะทำให้ถูกเอาเปรียบได้เพราะความที่เขาซื่อสัตย์และเป็นที่พึ่งได้
- ไม่เก่งเรื่องของความรู้สึก
ISTP = The Mechanic "ช่างเครื่อง" 
- เงียบ, ชอบการผจญภัย และกีฬา
- ชอบเสี่ยง, เป็นตัวของตัวเอง, แก้ปัญหาเก่ง
- มองโลกในแง่ดี แต่อาจโกรธง่ายตอนเครียด
- ปกติไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรให้คนอื่นอยู่ ทั้งดีและไม่ดี
ISFJ = The Nurturer "ผู้ดูแล"
- เงียบ, ใจดี, มีสติ
- มีความรับผิดชอบต่อภาระและหน้าที่
- คิดถึงคนอื่นก่อนตัว, จำคนเก่ง
- เสียกำลังใจเมื่อถูกวิจารณ์
- ชอบเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเอง
ISFP = The Artist "ศิลปิน"
- เงียบ, ใจดี, จริงจัง และอ่อนไหว
- ไม่ชอบการโต้แย้ง, ไม่ชอบระเบียบ กฎเกณฑ์
- ความคิดสร้างสรรค์ และไม่เหมือนใคร, ชอบของสวยงาม
- เข้าใจยาก, เปิดเผยตัวเองกับคนใกล้ชิดเท่านั้น
- ใช้ชีวิตอย่างจริงจัง
INFJ = The Protector "ผู้ป้องกัน" 
- มีความคิดสร้างสรรค์, อ่อนไหว, เป็นตัวของตัวเอง
- เก่งเรื่องมองคน และ สถานการณ์
- เป็นคนลึกซึ้ง, ซับซ้อน, ชอบความเป็นส่วนตัว
- เข้าใจยาก, มีความมั่นใจในตัวเองสูง, ดื้อรั้นต่อความคิดของผู้อื่น
- ไม่ชอบการโต้แย้ง
INFP = The Idealist "นักอุดมการณ์"
- เงียบ, ซื่อสัตย์, ชอบอุดมการณ์
- ชอบช่วยเหลือ และมีความเข้าใจคนอื่น
- ไม่ชอบการโต้แย้ง
- ซื่อสัตย์ต่อความคิดตนเอง
- มีความคิดสร้างสรรค์
INTJ = The Scientist "นักวิทยาศาสตร์"
- ฉลาด, มุ่งมั่น, ไม่เหมือนใคร
- เป็นผู้นำที่ดี, มีความมั่นใจสูง, มองการณ์ไกล
- ชอบคิดคนเดียว และชอบอยู่คนเดียว, มักด่วนสรุป, ไม่ชอบรายละเอียด, คิดว่าตนเองถูกเสมอ
- แสดงความรู้สึกไม่เก่ง, จะมีปัญหากับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด
INTP = The Thinker "นักคิด"
- มีความคิดสร้างสรรค์, เป็นตัวของตัวเอง, มีเหตุมีผล และมีความสามารถสูง
- ไม่อยากถูกนำหรือนำคนอื่น, ไม่ชอบระเบียบ
- ใช้เวลากับความคิดตัวเองมาก, จิจใจมักไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
- เงียบ, ไม่ค่อยรู้ว่าคนอื่นรู้สึกยังไง
- มีอารมณ์ซับซ้อน, ไม่อยู่นิ่ง และแปรปรวน
ESTP = The Doer "ผู้กระทำ"
- เป็นมิตร, ยืดหยุ่นง่าย, เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้ดี
- ไม่ชอบคำอธิบาย แต่ต้องการแค่ผลลัพธ์
- ใช้ชีวิตที่สนุกสนาน จึงทำให้รู้สึกเวลาผ่านไปเร็ว
- รักสนุก, สามารถทำร้ายจิตใจผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว
- ไม่ชอบเคารพกฎระเบียบ
- เบื่อง่าย
ESTJ = The Guardian "ผู้พิทักษ์" 
- มีระเบียบ, ซื่อตรง, ตรงไปตรงมา
- มีความมั่นใจในตัวเอง, มีความสามารถ, ทำงานหนัก, เป็นผู้นำ
- ชอบความปลอดภัย และความสงบสุข
- แสดงความรู้สึกและความห่วงใยไม่เก่ง
ESFP = The Performer "ผู้แสดง"
- อยู่คนเดียวในโลกไม่ได้, มนุษยสัมพันธ์ดี, รักสนุก, ทำงานเป็นทีมได้ดี
- มองโลกในแง่ดี, ต้อนรับทุกคน แต่ก็เกลียดทุกคนได้เหมือนกัน
- ไม่ชอบงานประจำ, คิดมากเวลาเครียด
- รักสวยรักงาม

ESFJ = The Caregiver "นักใส่ใจ"
- มีน้ำใจ, ใครๆมักชอบ, มีสติ, มีความรับผิดชอบ
- เก่งเรื่องคน, เข้าใจ สนใจ และ ปรับตัวเข้ากับคนได้ดี
- อยากเป็นที่รัก, ชอบบริการผู้อื่นก่อนตนเอง
- รักความสงบและความปลอดภัย, ไว้ใจได้, กระตือรือร้น
- อ่อนไหว, ต้องการการเห็นด้วยจากผู้อื่น
ENFP = The Inspirer "ผู้มีแรงบันดาลใจ"
- มีความคิดสร้างสรรค์, กระตือรือร้น, ยืดหยุ่น
- ต้อนรับไอเดียใหม่ๆเสมอ แต่จะเบื่อกับรายละเอียด
- มีมนุษยสัมพันธ์ดี, ต้องการเป็นที่รัก แต่ก็สามารถหลอกใช้ผู้อื่นได้ด้วย
- เป็นคนร่าเริงและชอบเป็นอิสระ
ENFJ = The Giver "ผู้ให้"
- มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก, ห่วงใยความรู้สึกของผู้อื่นเสมอ
- ไม่ชอบอยู่คนเดียว, ต้องการอยู่กับผู้อื่นตลอดเวลา
- มีความสามารถที่จะทำในสิ่งที่เขาชอบหลายๆอย่าง
- มีความมั่นใจในตัวเอง, เจ้าระเบียบ
ENTP = The Visionary "ผู้มีวิสัยทัศน์" 
- มีความคิดสร้างสรรค์, ฉลาด, แก้ปัญหาเก่ง
- ชอบไอเดียใหม่, ไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ
- ชอบคุย, คุยเก่ง, หัวไว
- ไม่สนใจเรื่องความรู้สึก คิดเพียงจะให้งานสำเร็จ
- บางครั้งอาจจะเคร่งครัดกับคนรอบข้าง
ENTJ = The Executive "ผู้บริหาร"
- เป็นผู้นำตั้งแต่เกิด, พูดต่อหน้าคนได้ดี, ฉลาด, มีความรู้
- เห็นความสำคัญในความรู้และความสามารถ, ไม่มีความอดทนกับคนทำงานไม่เก่ง
- แก้ปัญหาเก่ง, สามารถเข้าใจปัญหาซับซ้อน
- เจ้ากี้เจ้าการ, ไม่มีความอดทน, เด็ดขาด, น่าเกรงขาม
.........................

แบบทดสอบ จิตวิทยา ลึกลงไป ในใจคุณ


แบบทดสอบจิตวิทยาเพียง 4 ข้อ ที่สามารถเปิดเผยใจสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจของคุณได้ตรงอย่างไม่น่าเชื่อ
วิธีทำแบบทดสอบจิตวิทยา "ลึกลงไปในใจคุณ" อ่านข้อความแล้วตอบคำถามสั้นๆ ไม่ต้องคิดนานมากนักค่ะ เริ่มเลยนะคะ
วิธีทำแบบทดสอบจิตวิทยา "ลึกลงไปในใจคุณ" อ่านข้อความแล้วตอบคำถามสั้นๆ ไม่ต้องคิดนานมากนักค่ะ เริ่มเลยนะคะ
คุณอยู่ในตึกร้างแห่งหนึ่ง และกำลังยืนอยู่หน้าห้องใต้ดิน ที่มีบันไดทอดยาวลงไป คุณค่อยๆ เดินลงไปช้าๆ ขณะเดียวกันก็นับขั้นของบันได 1 ขั้น… 2 ขั้น… 3 ขั้น…

1.บันไดที่นำคุณลงไปถึงข้างล่างมีทั้งหมดกี่ขั้น?
v
2.หลังจากนั้นคุณได้ยินเสียงของใครบางคนดังออกมาจากความมืด คนผู้นั้นกำลัง
A. ร้องไห้เบาๆ
B. ร้องคร่ำครวญจนฟังไม่ได้ศัพท์
C. หรือว่ากำลังพูดกับคุณ?

 
3. คุณทำอย่างไรเมื่อได้ยินเสียงคนคนนั้น?
A. พยายามหาที่มาของเสียง?
B. วิ่งหนีโดยสัญชาตญาณขึ้นมาข้างบนอย่างไม่เหลียวหลัง?
C. หรือว่ายืนตัวแข็งด้วยความหวาดกลัว และไม่ขยับเขยื้อนไปไหน?
v
4. คุณได้ยินเสียงคนคนหนึ่งเรียกชื่อคุณ และเห็นเงาของเขาทอดตัวลงมาจากบันไดขั้นบนสุด ใครคือคนที่กำลังเดินลงมาหาคุณ?
v
วิเคราะห์คำตอบ แบบทดสอบจิตวิทยา ลึกลงไปในใจคุณ
 
ตึกร้างและห้องใต้ดินเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนของความทรงจำที่ฝังลึก และรอยแผลในจิตใจเราทุกคนต่างก็มีประสบการณ์ที่ไม่อยากจะระลึกถึง หรือความผิดหวังที่เราคิดว่า เราลืมมันไปแล้ว แต่ความทรงจำนั้นไม่อาจลบเลือนไปได้ง่ายๆ
สิ่งที่เราอยากลืม จะคงอยู่กับเราเนิ่นนานเกินกว่าที่เราคาดคิด การตอบสนองของคุณต่อสถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า คุณจัดการกับความทรงจำในอดีตที่แสนเจ็บปวดอย่างไร

1. จำนวนขั้นบันได้ที่ทอดสู่ชั้นใต้ดิน บอกถึงอิทธิพลของรอยแผลในจิตใจที่มีต่อคุณขณะนี้ หากคุณตอบว่า ขั้นบันได้มีเพียงไม่กี่ขั้น คุณได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเพียงเล็กน้อย แต่หากคุณคิดว่าบันไดนั้นทอดยาวลึกลงไปสู่ห้องใต้ดิน คุณเป็นผู้ที่มี
บาดแผลฝังลึก ในใจเฉกเช่นความลึกของบันได
v

2. เสียงที่คุณได้ยินมาจากความมืด บอกว่าคุณผ่านพ้นประสบการณ์อันเลวร้ายในอดีตมาได้อย่างไร

A. ได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ คุณมักจะได้รับการปลอบโยนจากผู้อื่นเมื่อมีปัญหา และหายจากความโศกเศร้าด้วยความช่วยเหลือจากคนเหล่านั้น

B. ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญจนฟังไม่ได้ศัพท์ คุณได้ผ่านความทุกข์ครั้งนั้นมาด้วยตนเองอย่างยากลำบาก เสียงครวญครางที่คุณได้ยินเป็นเสียงของความเจ็บปวดที่ฝังลึกของคุณเอง

C. ได้ยินเสียงนั้นกำลังพูดกับคุณ คุณมีรอยแผลเป็นในใจซึ่งเป็นเสมือนเหรียญเกียรติยศ แต่คุณไม่ยอมรับว่านั่นเป็นบาดแผล นักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงได้กล่าวว่า “สิ่งนั้นไม่ได้ทำให้เราตาย แต่มันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น” แต่จงระวัง อย่าให้สิ่งนี้ทำให้คุณแข็ง
กระด้าง และไม่แยแสความรู้สึกของผู้อื่น
v
3.ปฏิกิริยาของคุณต่อเสียงในความมืด บอกว่าคุณจัดการกับความเจ็บปวดในอดีตอย่างไร

A. หากคุณค้นหาที่มาของเสียง แสดงว่า คุณมักจะทำอย่างนั้นเช่นกันในชีวิตจริง การเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างตรงไปตรงมาจะทำให้คุณพบกับทางออกอย่างแน่นอน

B. หากคุณวิ่งหนีขึ้นมาชั้นบนโดยไม่เผชิญหน้ากับเสียงนั้น คุณมักจะละเลยปัญหาโดยหวังว่าสักวันมันจะดีขึ้นเอง วิธีนี้อาจใช้ได้ในบางกรณี แต่อย่าประหลาดใจหากคุณพบว่าปัญหานั้นวนเวียนอยู่กับคุณนานกว่าที่คิด บางครั้งคุณก็ต้องยืนหยัด และหันไป
เผชิญหน้ากับความกลัวเสียบ้าง

C.หากคุณยืนตัวแข็งด้วยความกลัวอยู่ตรงนั้น อาจหมายความว่าคุณมีความขัดแย้งในอดีตที่ยังไม่ได้แก้ไข มันยังตามหลอกหลอนคุณ และขัดขวางคุณไม่ให้คุณดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าอย่างผาสุก
v
4.คนที่ปรากฏตัวที่บันไดขั้นบนสุด และเรียกชื่อคุณ คือ คนที่คุณคิดว่าสามารถพึ่งพาได้เมื่อมีปัญหา และคุณเชื่อว่า คนคนนั้นสามารถปลอบโยน และช่วยเยียวยาแผลในใจของคุณได้
...

แบบทดสอบจิตวิทยา 8 ข้อ บอกความเป็นคุณ


แบบทดสอบจิตวิทยาเพียง 8 ข้อ ก็สามารถบอกอะไรคุณได้มากมาย เรามาทดสอบกันเลยจ้า
วิธีทำแบบทดสอบจิตวิทยา อ่านคำถามแล้วเขียนคำตอบไว้นะคะ ไม่ต้องคิดนาน ความคิดแรกของคุณจะพาคุณไปพบคำตอบที่ตรงที่สุด
1. ลองนึกถึงทะเล แล้วเลือกว่าทะเลในความคิดของคุณเป็นอย่างไร
ก. สีน้ำเงินเข้ม
ข. ใส สะอาด
ค. สีเขียว
ง. ขุ่น
2. คุณอยากอยู่ตรงไหนของภูเขา
3. คุณชอบรูปทรงใดมากที่สุด
ก. ทรงกลม
ข. สี่เหลี่ยมจตุรัส
ค. สามเหลี่ยม
4. คุณอยากให้รูปทรงดังกล่าวมีขนาดเท่าไหร่
ก. เล็กมาก
ข. เล็ก
ค. ปานกลาง
ง. ใหญ่
จ. ใหญ่มาก
5. และมันถูกสร้างขึ้นมาจาก
ก. ไม้
ข. กระจก/แก้ว
ค. เพชร
ง. เหล็ก/โลหะ
6. จินตนาการถึงม้า ม้าในความคิดของคุณจะมีสี
ก. น้ำตาล
ข. ดำ
ค. ขาว
7. คุณเดินอยู่บนระเบียงและเห็นประตูสองบาน เพียงคุณก้าวต่อไปทางซ้ายอีกสี่ห้าก้าวก็จะถึงประตูบานที่หนึ่ง ส่วนประตูอีกบานนั้น คุณจะต้องเดินไปจนสุดทางระเบียง ถ้าประตูทั้งสองบานถูกเปิดทิ้งไว้ และมีกุญแจดอกหนึ่งวางอยู่ตรงหน้า คุณจะเก็บกุญแจขึ้นมาหรือไม่
ก. เก็บ
ข. ไม่เก็บ
8. ถ้าหากว่าพายุกำลังเข้ามาใกล้ คุณจะเลือก
ก. ม้า
ข. บ้าน
.
.
.
.
.
.
.
.
.


ผลการวิเคราะห์ แบบทดสอบจิตวิทยา 8 ข้อบอกความเป็นคุณ

1. สีของน้ำทะเล แสดงถึงบุคลิกภาพของคุณ
ก. สีน้ำเงินเข้ม - คุณมีบุคลิกภาพที่ซับซ้อนเข้าใจยาก
ข. ใส สะอาด - คุณเป็นคนเปิดเผย เข้าใจง่าย
ค. สีเขียว - คุณเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่ค่อยเครียด
ง. ขุ่น - คุณเป็นคนสับสนในตัวเอง

2. ความสูงของภูเขาเป็นตัวแทนความทะเยอทะยานในชีวิตของคุณ
3. รูปทรง แสดงถึงลักษณะนิสัยของคุณ
ก. ทรงกลม - คุณพยายามเอาอกเอาใจทุกๆ คน
ข. สี่เหลี่ยมจัตุรัส - คุณเป็นคนหัวแข็ง และเอาแต่ใจตัวเอง
ค. สามเหลี่ยม - คุณเป็นคนหัวดื้อ
4. ขนาดของรูปทรง แสดงถึงขนาดที่คุณมีลักษณะนิสัยดังกล่าว
5. วัสดุที่ใช้สร้างรูปทรง แสดงถึงบุคลิกของคุณ
ก. ไม้ - รักความสงบ
ข. กระจก/แก้ว - เปราะบาง
ค. เพชร - ดื้อรั้น
ง. เหล็ก/โลหะ - เข้มแข็ง แต่ไม่ค่อยยืดหยุ่น
6. สีของม้า แสดงถึงบุคลิกของคุณอีกเช่นกัน
ก. น้ำตาล - ติดดิน
ข. ดำ - ไม่แน่นอน มีอารมณ์ที่รุนแรง การอยู่ร่วมกับคุณมักมีเรื่องให้น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ
ค. ขาว - หยิ่ง แต่น่าประทับใจ
7. การเก็บลูกกุญแจ แสดงถึงการฉวยโอกาส
ก. เก็บ - คุณรู้จักฉกฉวยโอกาสที่เป็นประโยชน์
ข. ไม่เก็บ - คุณไม่ใช่คนชอบฉวยโอกาส
8. ที่พึ่งในยามที่มีพายุ แสดงถึง คนที่คุณมักจะนึกถึงเสมอเวลามีปัญหา
ก. ม้า - สามีหรือภรรยาของคุณ
ข. บ้าน - เพื่อนสนิทที่รู้ใจ


วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

จิตวิทยาทั่วไป : ดูนางให้ดู แม่ แต่ดูชายเจ้าชู้ ให้ดู พ่อ


ดูนางให้ดู แม่ แต่ดูชายเจ้าชู้ ให้ดู พ่อ

UploadImage

เอเจนซี – ถ้าอยากรู้ว่าสามีจะนอกใจหรือไม่ ผลศึกษาใหม่แนะนำให้ดูจากพ่อสามี เพราะมีโอกาสมากที่นิสัยเจ้าชู้อาจถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม โดยเฉพาะสำหรับบุรุษเพศ
      
งานศึกษาจากนักวิจัยในสาธารณรัฐเช็ก ยืนยันสำนวน ‘เชื้อไม่ทิ้งแถว’ มีแววเป็นจริง และผู้หญิงหลายคนที่รวมถึงภรรยาเซเลบนักล่าสวาทอย่างไทเกอร์ วูดส์ และไรอัน กิ๊กส์ ซาบซึ้งเต็มอก
      
ทีมนักวิจัยสรุปว่า แม้มีพฤติกรรมสวมเขาเหมือนกัน แต่ผู้ชายมีแนวโน้มมากกว่าหากพ่อเคยมีพฤติกรรมแบบนี้ให้เห็นและซึมซับ
      
แจน แฮฟไลเซ็ค นำเสนอผลงานนี้ต่อที่ประชุมยูโรเปียน ฮิวแมน บีแฮฟวิเออร์ แอนด์ เอฟโวลูชัน แอสโซซิเอชัน โดยอธิบายว่าลูกสาวไม่ได้รับถ่ายทอดความไม่ซื่อสัตย์จากแม่แต่อย่างใด
      
แต่สำหรับเด็กชายที่เติบโตมาอาจคิดว่าสิ่งที่เห็นรอบตัวเหมาะสมดีและกระทำได้ เนื่องจากปกติแล้วพ่อจะเป็นต้นแบบสำคัญ
      
ในการศึกษา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ในกรุงปราก เปิดรับอาสาสมัคร 86 คู่ และสัมภาษณ์สามี-ภรรยาแยกกัน โดยให้คำยืนยันว่าจะเก็บเรื่องราวความสัมพันธ์ ทัศนคติต่อเรื่องเพศ ภูมิหลังของครอบครัว และประสบการณ์ความไม่ซื่อสัตย์เป็นความลับ
      
มาร์ตี้ แฮสเลตัน นักจิตวิทยาวิวัฒนาการจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในลอสแองเจลีส แสดงทัศนะว่าข้อเท็จจริงที่ว่าลูกสาวไม่ได้รับอิทธิพลจากความไม่ซื่อสัตย์ของพ่อแม่แบบที่ลูกชายเป็นนั้น สามารถอธิบายได้ด้วยกฎทางพันธุกรรม
      
แฮสเลตันแจงว่า พ่อหน้าตาดีมีแนวโน้มมีลูกชายหล่อเหลาเหมือนกัน และผู้ชายเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะเจ้าชู้ แต่ลูกสาวที่สวยเหมือนแม่กลับมีพฤติกรรมแตกต่าง กล่าวคือไม่จำเป็นต้องสวมเขาสามี สาเหตุอาจเนื่องมาจากเลือกคู่ครองอย่างไตร่ตรองแล้วตั้งแต่ต้น
      
นอกจากนี้ ความต้องการที่มีต่อความสัมพันธ์ของผู้ชายและผู้หญิงยังต่างกัน ดังนั้น จึงคาดหวังได้ว่าผู้ชายและผู้หญิงจะใช้เสน่ห์ของตัวเองคนละแบบ ผู้ชายนั้นใช้เพื่อล่าแต้ม ส่วนผู้หญิงเพื่อคู่ครองและพ่อของลูกที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
      
ขณะเดียวกัน งานวิจัยจากเช็กชิ้นนี้ สนับสนุนแนวคิดที่ว่า การนอกใจของผู้ชายถูกกระตุ้นจากเรื่องเซ็กซ์มากกว่าการมีกิ๊กของผู้หญิง

แฮฟไลเซ็คและทีมนักวิจัยพบว่า ไม่ว่าผู้ชายจะพึงพอใจและมีความสุขกับชีวิตคู่หรือไม่นั้น ไม่มีผลกับแนวโน้มในการทรยศต่อความไว้ใจของภรรยา
      
ปกติแล้วผู้ชายมักมีกิ๊กหรือเมียน้อยเพราะต้องการเซ็กซ์และจำนวนคู่นอนมากขึ้น ไม่ใช่เพราะเบื่อหน่ายคนข้างตัวที่รออยู่ที่บ้าน
      
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะนอกใจ หากไม่พึงพอใจกับบางแง่มุมของความสัมพันธ์ โดยแฮฟไลเซ็คเชื่อว่า สาเหตุอาจเป็นเพราะผู้หญิงต้องการคู่ครองใหม่
      
“อาจเป็นการดีที่สุดที่คุณจะอยู่กับคนที่คบอยู่ เพราะในบางกรณีการมีใครสักคนที่ถึงไม่สมบูรณ์แบบก็ยังดีกว่าการอยู่คนเดียวเมื่อคุณมีลูกให้ต้องดูแล
      
“แต่ขณะเดียวกัน ผู้หญิงมากมายที่เราสัมภาษณ์จะบอกว่า คุณสามารถมองหาทางเลือกอื่นได้”
UploadImage
ไรอัน กิ๊กส์ นักฟุตบอลชื่อดังสังกัดทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในวัยเด็กกับพ่อ แดนนี วิลสัน ที่บอกว่าผิดหวังกับลูกชายคนนี้ แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า ตัวเองเคยนอกใจภรรยาเหมือนกัน
...

 
ขอบคุณข้อมูลจิตวิทยาทั่วไปดีๆจาก ผู้จัดการออนไลน์ และภาพประกอบ ภาพบน จาก NiceFun.net

จิตวิทยาทั่วไป : สมองหญิงต่างจากชายจริงหรือ?


สมองหญิงแตกต่างจากชายจริงหรือ??

UploadImage

หลายคนที่ชอบอ่านพ๊อกเก็ตบุคเล่มเล็กๆคงเคยได้ยิน ชายมาจากดาวอังคาร หญิงมาจากดาวศุกร์กันบ้างแล้ว ซึ่งทีมงานกรมสุขภาพจิตก็เคยนำเสนอบทความดังกล่าวมาแล้ว พบว่าชายหญิงนั้นมีความแตกต่างกันที่นอกเหนือจากสรีระร่างกายแล้ว ในเรื่องความแตกต่างในเชิงวิธีคิดก็มีความต่างกัน นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเพื่อยืนยันความแตกต่างกันในเชิงความสามารถของสมองก็มีเช่นกัน ดังจะกล่าวต่อไปนี้
เมื่อเร็วๆนี้นิตยสารชื่อดังเช่นไทม์ ฉบับ 28 มีนาคม 2549 กล่าวเน้นให้เห็นความเชื่อดังกล่าวข้างต้น ซึ่งก็กลายมาเป็นข้อจำกัดบางเรื่องของสาวๆและแม่บ้านทั้งหลาย ผู้เคยชินกับการที่ตัวเองมีความสามารถในการจัดการกับปัญหาต่างๆในบ้าน และหรือนอกบ้าน (ในที่ทำงาน)ได้อย่างละเมียดละไม เรียนรู้เรื่องภาษาได้อย่างรวดเร็ว มีทักษะด้านความจำที่เหนือกว่าหนุ่มๆหรือพ่อบ้านได้อย่างเป็นจินตภาพ แตกต่างจากหนุ่มๆหรือพ่อบ้านที่มักจะขาดทักษะในการแก้ปัญหาที่มีรายละเอียดมาก (หรือเมินในการจดจำเรื่องราวต่างๆ) แต่มีความถนัดในเรื่องวิศวะอิเลกทรอนิกซ์ เครื่องยนต์กลไก เพราะมีพื้นฐานทักษะทางคณิตศาสตร์ การบวกลบคูณหารที่ดีกว่า นั่นเป็นเพราะว่าโครงสร้างทางสมองของเพศหญิงแตกต่างจากสมองของเพศชาย
จริงหรือไม่มีหลายคนคงสงสัยเช่นกัน
จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ด้านสมอง (neuroscientist) ที่ชื่อซานด้าน วิเทลสัน ได้ทุ่มเทเวลาศึกษาเรื่องสมองมนุษย์ โดยเฉพาะในประเด็นที่หลายคนอาจจะตั้งคำถามไว้ในใจว่า "เหตุใดอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จึงได้ฉลาดปราดเปรื่องยิ่งนัก" การศึกษาครั้งนั้นได้สร้างชื่อเสียงให้เธอในช่วงทศวรรษที่ 1990 เป็นอย่างมาก ช่วงทศวรรษให้หลัง แซนด้าก็มีศึกษาหาคำตอบว่าปัจจัยให้สมองของเพศหญิงแตกต่างจากเพศชายเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน อุปนิสัย อาหาร และยาที่ใช้
จากการศึกษาพบว่า เมื่อขณะที่เราเป็นเด็กนั้น โครงสร้างทางสมองของเด็กหญิงและเด็กชาย โดยเฉพาะทักษะความสามารถทางคณิตศาสตร์นั้นไม่มีความแตกต่างกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วสมมติฐานนั้นจะเป็นเช่นเดิม โดยจากการศึกษาพบว่าความแตกต่างจะเริ่มปรากฎให้เห็นเมื่อเด็กย่างเข้าสู่วัยเรียนในระดับเกรด 4 (ก็คงวัยชั้นประถมในบ้านเรา) ก่อนที่จะพัฒนาไปเรื่อยๆให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างเพศหญิงกับเพศชายมากยิ่งขึ้น โดยยืนยันได้จากผลการทดสอบ SAT (การทดสอบมาตรฐานทางคณิตศาสตร์) ที่เด็กวัยมัธยมบ้านเรารู้จักกันดีที่สัดส่วนคะแนนของเด็กหญิงจะได้น้อยกว่าเด็กชาย

อะไรที่บอกความแตกต่างทางโครงสร้างของสมองบ้าง

1. สมองส่วน Parietal Lobe แต่ก่อนมีความเชื่อว่าในเพศหญิงสมองส่วนนี้จะใหญ่กว่าเพศชายนั้น ไม่จริงเสียแล้ว
2. สมองส่วน Corpus Callosum ซึ่งเป็นส่วนที่เส้นประสาทสมองมีการเชื่อมต่อกันเพื่อให้เห็นพัฒนาการทางด้านความฉลาด จะเห็นการพัฒนาที่มีความแตกต่างกันระหว่างเพศหญิงและเพศชาย
3. สมองส่วน Prefrontal Cortex เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการด้านความคิดที่จะพัฒนาต่อไปเป็นอารมณ์ ในเพศหญิงพบว่ามีการใช้สมองส่วนนี้ทำงานมากกว่า
4. อมิกดาลา (Aygdala) เป็นส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับความจำที่ลึกลับซับซ้อน หรือเป็นส่วนที่บางคนจะบอกว่าเป็นความจำเจ็ดชั่วโคตร ในเพศชายที่มีทักษะความสามารถด้านการควบคุมอารมณ์ได้ดี จะมีเส้นประสาทสมองเชื่อมต่อกับสมองส่วนนี้น้อย (หรือจะยืนยันความเป็นจริงที่ว่า เพศชายเขามักจะมีความทรงจำอะไรๆได้ไม่ดีนักเพราะเกี่ยวข้องกับสมองส่วนนี้หรือเปล่า) ในขณะที่เพศหญิงที่มีทักษะทางด้านภาษาศาสตร์จะพบการเชื่อมต่อของเส้นประสาทสมองส่วนนี้มีมากขึ้น (ท่านชายทั้งหลายอย่ามองข้าม ตรงนี้ยืนยันได้ว่าความจำของสตรีในบางเรื่องเป็นความจำที่เป็นเลิศ นั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับสมองส่วนนี้)
5. Cerebellum หรือสมองส่วนท้าย ในสมองส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับทักษะทางการเรียนรู้ ดังเช่น ทักษะทางคณิตศาสตร์ ดนตรี และทักษะทางสังคม เช่นเดียวกับสมองในส่วนข้อ 2 คือ Corpus Callosum จะมีความแตกต่างกันอย่างสมบูรณ์ระหว่างเพศหญิงและเพศชาย

จากการศึกษาของแซนด้ายังบอกอีกว่า จากโครงสร้างของสมอง โดยเฉพาะในส่วนของข้อ 3 Prefrontal Cortex (ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังหน้าผากจากมองมองสรีระภายนอก) ทำให้เพศชายเมื่อโตขึ้นจะมีความโผงผาง ดุดันกว่าเพศหญิง แถมเมื่อนานวันเข้า ก็มีโอกาสเสียเนื้อเยื่อที่ช่วยในการควบคุมตนเอง ขณะที่เพศหญิงกลับมีการพัฒนาเนื้อเยื่อในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีผลทำให้เราเห็นการพัฒนาของสมองส่วนนี้จาก คุณแม่ คุณป้า คุณย่า คุณยาย ที่จะมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นตามวัย (จริงเท็จอย่างไรก็ลองกลับไปดูคนที่บ้านดูแล้วส่งข้อมูลยืนยันความเชื่อนี้แลกเปลี่ยนกันด้วยจะเป็นพระคุณ)

จากผลงานเรื่องนี้จึงเป็นแหล่งอ้างอิงที่ดี เพื่อนำไปสู่การศึกษาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆที่มีผลมากจากความผิดปกติของสมอง เช่น ออทิสติก อัลไซเมอร์ รวมไปถึงโรคจิตเภท ซึมเศร้า ช่วยเป็นแสงนำทางเราไปสู่การป้องกัน รักษาโรคเหล่านี้ได้มากขึ้นในอนาคต

เร็วๆนี้มีตัวอย่างคนไข้รายหนึ่ง ที่เปิดเผยเพื่อเป็นกรณีศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเพลซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา โดยนายแพทย์ยอนห์ แวน เดอมิเต กล่าวว่า มีเด็กหญิงวัยประถมรายหนึ่งมาพบจิตแพทย์ด้วยปัญหาไม่สามารถเรียนคณิตศาสตร์ได้ แต่เด็กมีทักษะทางภาษาศาสตร์ที่ดีมาก โดยเป็นตัวแทนชุมชนในการกล่าวสุนทรพจน์ เป็นนักพูด เรียนวรรณคดี และภาษาศาสตร์ได้ดี

ตอนหลังครู ผู้ปกครอง และเด็ก ก็ร่วมกันหาทางออกโดยการเปลี่ยนวิธีการเรียนคณิตศาสตร์แบบปกติทั่วไป เป็นการเรียนโดยใช้สัญญลักษณ์เชิงภาษาศาสตร์ที่เด็กมีความชำนาญ คือสื่อสารในแบบที่เด็กเข้าใจ ซึ่งต่อมาเด็กก็สามารถเรียนคณิตศาสตร์จนสามารถสอบได้คะแนนดีเยี่ยมตามมาทีหลังได้

กล่าวโดยสรุป ความเชื่อที่ว่าความสามารถทางสมองของเด็กหญิงและชายนั้นมีความแตกต่างกันที่เห็นได้ชัดคือวัยประถม เป็นสมมติฐานที่มีการศึกษามามากพอ แต่ในโลกยุคสมัยใหม่ที่มีการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง มีการวิจัยศึกษาและพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ รวมถึงการมีพฤติกรรมสุขภาพของแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์ มีการอบรมเลี้ยงดูที่ดี ถึงแม้ว่าระหว่างเพศหญิงและชายจะมีลักษณะสมองที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าจะมองไม่เห็นแนวทางที่จะมีการส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในสิ่งที่เด็กไม่มีพื้นฐานความชำนาญให้มีขึ้นมาได้ ตัวอย่างที่กล่าวถึงก็อาจจะเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองหลายคนได้เรียนรู้ว่า ลูกหลานของเราสามารถที่จะพัฒนาการเรียนรู้ให้ชำนาญขึ้นมาใหม่ได้ ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมเสริมต้นทุนที่เขาเหล่านั้นมีอยู่ให้มีมากยิ่งขึ้นต่อไปอีก

ปัจจุบัน เราจึงเห็นว่าลูกสาว หลานสาวเราทำคะแนนคณิตศาสตร์ได้สูสีกับเด็กผู้ชาย สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นวิศวะกร เป็นหมอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคณะที่เรามักจะเห็นกันเฉพาะเพศชายมากกว่าเพศหญิง เช่นคณะวิศวะกรรมศาสตร์ ไปถึงคณะวิทยาศาสาต์ทางด้านการแพทย์ ชีวะ เคมี วิทยาศาสตร์อื่นๆมากขึ้น ซึ่งเห็นความชัดเจนมากขึ้นในการเรียนคณะดังกล่าวแม้แต่ในต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ในประเทศเราเอง

ข้อมูลจาก นิตยาสารไทม์ ฉบับวันที่ 28 มีนาคม 2549 และนิตยสารชีวจิต ฉบับเดือนธันวาคม 2549

ขอบคุณข้อมูล  จิตวิทยาทั่วไป จาก กรมสุขภาพจิต
photo credit : camb-ed.com.au

จิตวิทยาความรัก : จะรู้ได้ไง ว่าหญิงมีใจ


จะรู้ได้ไง ว่าหญิงมีใจ

UploadImage

ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง จะรักจะชอบใครมันก็ต้องเก็บอาการกันบ้าง แต่การเก็บงำอารมณ์แบบนี้ ยิ่งทำให้ผู้ชายที่กำลังตามส่งข้าวส่งน้ำ อาจจะรู้สึกท้อแท้ใจจนไม่อยากสู้ต่อ ไทยรัฐออนไลน์จึงอยากช่วยให้ชายหนุ่มมีกำลังใจในการพิชิตใจสาวในฝัน ด้วยการสังเกตท่าทาง หรือการกระทำบางอย่างของผู้หญิงที่หมายปอง ว่าตอนนี้เขากำลังชอบคุณตอบกลับมาเหมือนกัน
UploadImage 1. สนใจในสิ่งที่คุณสนใจ
ผู้หญิงที่เริ่มจะเทใจให้กับคุณผู้ชาย จะตั้งต้นศึกษาในกิจกรรมที่คุณสนใจ อย่างเช่น ภาพยนตร์ รถยนต์ หรือแม้แต่เกม เพื่อให้การสนทนาและการออกเดทราบรื่น และยิ่งทำให้คุณผู้ชายทั้งหลายรู้สึกคลั่งในตัวหญิงสาวคนนี้ เพราะว่าพูดคุยกันด้วยภาษาเดียวกัน
 
UploadImage
UploadImage 2. หัดเล่นกีฬาที่ไม่ชอบ
ถ้าผู้หญิงแอบหัดไปฝึกเล่นกีฬาที่ชายหนุ่มคนที่มาจีบชอบเล่นในช่วงวันหยุดแล้วล่ะก็ ขอให้ฟันธงได้เลยว่า คุณเธอมีใจให้คุณเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากพวกเธอคิดว่าการใช้เวลาช่วงวันหยุดด้วยการเล่นกีฬาพร้อมกัน จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์รุดหน้า และเป็นการเอาใจฝ่ายชายไปในตัว
UploadImage 3. ข้าวกล่องสื่อรัก
เสน่ห์ปลายจวักของผู้หญิงถือเป็นบ่วงรักที่ผู้ชายหลายคนถอนตัวไม่ขึ้น จึงไม่แปลกที่สาวๆส่วนใหญ่เลือกจะโชว์ฝีมือการทำอาหาร และนำมามอบให้กับชายที่หมายปอง โดยพวกเธออาจจะสงวนท่าทีว่า ทำมาเยอะเลยเอามาแบ่งให้ทาน หรือลองทำสูตรใหม่ก็อยากให้ชิมดู ซึ่งหนุ่มๆก็สมควรจะขอบคุณอย่างสุดซึ้ง พร้อมกับรับประทานให้หมด แม้รสชาติจะไม่ถูกปากก็ตามที
UploadImage 4. ยอมรับข้อเสีย
ถ้าผู้หญิงหยุดบ่นในสิ่งที่ขวางหูขวางตา และมองว่าสิ่งที่ชายตรงหน้ากำลังทำเป็นเรื่องที่อดทนได้ ถือว่าผู้หญิงกำลังมีใจ เนื่องจากเพศหญิงมักเป็นฝ่ายบ่น จู้จี้ ไม่สามารถหยุดปากจะพูดถึงสิ่งที่ไม่ชอบไม่ได้หรอก หากคนที่ทำตรงหน้าเป็นแค่เพื่อน แต่ถ้าฝ่ายหญิงเริ่มมองว่าคุณเป็นคนพิเศษ ความเกรงใจและอดทนจึงเกิดขึ้น
UploadImage 5. เชื่อมั่นในทุกคำพูด
ลองผู้หญิงรู้จักความรักแล้วล่ะก็ ความมั่นใจในตัวเองจะเริ่มถดถอยลง จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง จะเริ่มถามหาคำปรึกษาจากชายหนุ่มผู้มาติดพันมากขึ้น ปล่อยให้เรื่องทุกเรื่องกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิตที่ต้องการคู่คิดตลอดเวลา ตั้งแต่ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ไปจนถึงเรื่องเส้นทางบนท้องถนน ดังนั้นหากผู้หญิงเริ่มขยันโทรหาฝ่ายชาย โดยถามเรื่องเล็กๆน้อยๆก็สามารถคอนเฟิร์มได้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้กำลังวางใจ และพร้อมจะรับคุณเข้ามาร่วมอนาคตด้วยกัน
 
UploadImage
ข้อมูล : nwso.net Twitter : quet

ขอบคุณข้อมูล  จิตวิทยาความรัก จากไทยรัฐออนไลน์

photo credit : add-th-vanillasky.blogspot.com, dexknows.com, weheartit.com 

จิตวิทยาทั่วไป : จะหาหนุ่ม แข็งแรง จิตใจดี ได้ที่ไหน


UploadImage
กิจกรรมทางวัฒนธรรมเชื่อมโยงแน่นหนากับสุขภาพที่ดีและความพึงพอใจกับชีวิต
 
เอเจนซี - ถ้ากำลังมองหาหนุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ จิตใจดี บางทีเดทแรกควรชวนกันไปพิพิธภัณฑ์หรืออาร์ตแกลอรี
      
เนื่องจากผู้ชายที่ใช้เวลากับกิจกรรมทางวัฒนธรรมเป็นประจำมีแนวโน้มสุขภาพดีทั้งกายและใจ เมื่อเทียบกับหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบกิจกรรมแนวนี้
การเข้าโรงหนัง โรงละคร หรือดูคอนเสิร์ต ทำให้ผู้ชายซึมเศร้าหรือกังวลน้อยลง สำหรับผู้หญิงแม้ได้ประโยชน์ในลักษณะเดียวกันแต่ดูจะได้ในระดับน้อยกว่า
งานวิจัยที่ครอบคลุมผู้ใหญ่เกือบ 51,000 คน พบว่าผู้ชายได้ประโยชน์มากที่สุดจากการชื่นชมกิจกรรมทางวัฒนธรรมด้วยประสาทสัมผัสมากกว่าการนำตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมโดยตรง
 
UploadImage
คณะนักวิจัยประเมินสุขภาพ ความพึงพอใจกับชีวิต ความกังวล ความซึมเศร้าของอาสาสมัครด้วยแบบสอบถาม
 
อาสาสมัครยังถูกสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรมทางวัฒนธรรมเชิงรับ อาทิ เคยไปพิพิธภัณฑ์ งานแสดงศิลปะ คอนเสิร์ต หรือการแสดงต่างๆ กระทั่งการแข่งขันกีฬา บ่อยครั้งแค่ไหนในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นักวิจัยยังสอบถามอาสาสมัครเกี่ยวกับกิจกรรมทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น การเข้าชมรม การมีส่วนร่วมเบื้องหลังฉากการแสดงแสดงต่างๆ

UploadImage
โดยรวมแล้ว กิจกรรมทางวัฒนธรรมเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับสุขภาพที่ดีและความพึงพอใจกับชีวิต ยิ่งไปสถานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมหรือสร้างสรรค์งานด้านวัฒนธรรมด้วยตัวเองบ่อยเท่าไหร่ เรายิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายได้ประโยชน์มากที่สุดจากกิจกรรมทางวัฒนธรรมเชิงรับ ขณะที่ผู้หญิงได้ประโยชน์มากกว่าจากกิจกรรมทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์
งานศึกษาพบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเชิงรับเดือนละ 3 ครั้งเป็นต้นไป ทำให้ผู้ชายสุขภาพดีขึ้นและพึงพอใจกับชีวิตมากขึ้น
คณะนักวิจัยจากนอร์เวย์และสวีเดนทีมนี้ชี้ว่า ความเครียดที่ลดลงช่วยขจัดโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงปรับปรุงความดันโลหิตและฮอร์โมนความเครียด
รายงานที่อยู่ในเจอร์นัล ออฟ เอพิเดมิโอโลจี้ แอนด์ คอมมิวนิตี้ เฮลธ์ ยังระบุว่าการศึกษาก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางศาสนา สังคม และวัฒนธรรมสามารถปรับปรุงอัตราการรอดชีวิต เนื่องจากความเครียดที่ลดลงเป็นผลให้เกิดความเสียหายกับดีเอ็นเอน้อยลง และยังส่งผลดีอื่นๆ ต่อร่างกาย
ศาสตราจารย์แครี คูเปอร์ นักจิตวิทยาชื่อดังของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ อังกฤษ สรุปง่ายๆ ว่าการเป็น ‘ผู้ดู’ ในกิจกรรมทางวัฒนธรรมเครียดน้อยกว่าการเป็น ‘ผู้สร้าง’


ขอบคุณข้อมูล จิตวิทยาทั่วไป จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2554

UploadImage ทั้งนี้ เรื่องของการวิจัยต่างๆทั่วโลกนั้น เป็นการเก็บค่าสถิติ และการทดลอง ซึ่งจะไม่หยุดนิ่งนะคะ หากสนใจเรื่องไหนเราก็ควรจะต้องติดตามผลวิจัยใหม่ๆไปเรื่อยๆค่ะ

จิตวิทยาความรัก : ผู้ชาย เลี้ยวซ้าย ผู้หญิง เลี้ยวขวา


มีงานวิจัยน่าสนใจมากมายเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างหญิงกับชาย ในรายงานเรื่อง "มหัศจรรย์แห่งสมอง" นิตยสาร "ซีเคร็ต" ฉบับล่าสุด อิสระพร บวรเกิด ตั้งประเด็นหนึ่งน่าสนใจว่า สงครามย่อยๆ ระหว่างเพศนั้นมีชนวนเหตุมาจากสมองทั้งสองซีกของคุณเอง

พร้อมอ้างถึงงานวิจัยของ ศ.เอเดรียน เฟิร์นแฮม ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจาก "ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ลอนดอน" อธิบายเรื่องนี้ว่า สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงและผู้ชายต่างกันมากที่สุดคือ วิธีคิด

ผู้ชายส่วนใหญ่ปราดเปรื่องเรื่องมิติสัมพันธ์ หนุ่มๆ จึงเชี่ยวชาญการดูแผนที่ และสามารถฝ่าฝูงชนจากอัฒจันทร์ไปซื้อเครื่องดื่มแล้วกลับมานั่งที่เดิมได้อย่างสบายๆ

ขณะที่ฝ่ายหญิงหากเป็นคนลงไปซื้อ รับรองโทร.ตามหากันจ้าละหวั่น เพราะแม่คุณหลง กลับที่นั่งไม่ถูก

 ผู้หญิงส่วนมากลึกซึ้งเรื่องอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งเป็นความถนัดหลักของสมองซีกขวา ทำให้พวกเธอสะเทือนใจง่าย ดูหนังเกาหลีเป็นต้องร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร

 ขณะที่ผู้ชายเวลาถูกแทงข้างหลังหรือหักหลัง ก็ยังทนกัดฟัน "ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้" ได้อย่างหน้าตาเฉย

นอกจากนี้ นักจิตวิทยาคลินิก ไมเคิล จี.คอนเนอร์ ยังพบข้อสรุปว่า ผู้หญิงมีปริมาณเส้นประสาทที่เชื่อมระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวามากกว่าผู้ชายถึง 4 เท่านั่นหมายความว่า สมองทั้งสองซีกของผู้หญิงนั้นทำงานสัมพันธ์กันได้ดีกว่าผู้ชาย

ข้อสรุปของคอนเนอร์คงทำให้หลายคนหายสงสัยว่า เหตุใดผู้ชายจึงไม่ชอบให้ใครชวนคุยระหว่างขับรถหรือดูฟุตบอลเกมโปรด แต่ผู้หญิงกลับสามารถคุยโทรศัพท์ และปัดมาสคาราไปด้วยอย่างสบายๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บ่อยครั้งผู้ชายมักจะพูดโพล่งออกไปตรงๆ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ คือคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น

ส่วนผู้หญิงปากกับใจมักไม่ค่อยตรงกัน พูดอย่างหนึ่ง แต่ต้องการให้ผู้ฟังเข้าใจอีกอย่าง เช่น การบอกแฟนหนุ่มว่า "ทำอะไรไม่ถูก" นั้นแท้จริงแล้วเธอกำลังพยายามจะบอกว่า "คุณช่วยมาหาฉันเดี๋ยวนี้ได้ไหม" ต่างหาก

จะเห็นว่า ภาษาที่ทั้งสองฝ่ายใช้นั้น แม้จะเป็นภาษาเดียวกัน แต่กลับมีความหมายต่างกันอย่างสิ้นเชิง คำกล่าวของ ดร.จอห์น เกรย์ นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญเรื่องความแตกต่างระหว่างเพศ ที่ว่า "ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์"

จึงกลายเป็นประโยคเด็ดเป็นยอมรับกันทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้ 


ขอบคุณข้อมูล จิตวิทยาความรัก ดีๆจาก ข่าวสดออนไลน์