| |
" ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว” เป็นคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ความหมายง่าย ๆ มีอยู่ในตัวอยู่แล้ว คือเมื่อเรามีสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตามด้วย คนที่มีสุขภาพจิตดี ก็คือ คนที่เข้าใจตนเอง สามารถปรับตัวปรับใจได้อย่างเหมาะสมกับสังคมและสภาพความเป็นจริง เมื่อมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นในชีวิตก็สามารถคิดแก้ไขได้อย่างถูกวิธ ี คนที่อยากมีสุขภาพจิตดี จะต้องทำอย่างไรบ้าง เทคนิคการดูแลสุขภาพจิตให้ดีนั้นมีหลักปฏิบัติไม่ง่ายไม่ยากเกินไปดังนี้ |
|
| |
1. | ฝึกฝนจิตใจ ท่านพุทธทาสภิกขุ ได้บอกเราไว้ว่า “ใจสว่าง ใจสะอาด ใจสงบ ถ้ามีครบจึงเรียกว่ามนุสสา” ทุกคนควรหมั่นฝึกควบคุมอารมณ์และจิตใจของตนเองให้มั่นคง สุขุม เยือกเย็น มีเมตตา รู้จักให้อภัยและเข้าใจคนอื่น มองโลกในแง่ดี |
| |
2. | ฝึกปรับตน รู้จักปรับความคิดของตนเองให้เป็นคนมีเหตุมีผล ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ปรับตนเองให้เข้ากับสภาพความเป็นจริงในสถานการณ์ต่าง ๆได้ |
| |
3. | ฝึกพิจารณาตนเอง สำรวจตนเองอยู่เสมอว่า ว่าตนองนั้นมีข้อเสียตรงไหนข้อดีตรงไหน ก็เก็บเป็นกำลังใจเพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น ส่วนข้อเสียก็ปรับปรุงแก้ไข |
| |
4. | ฝึกทำตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคม ผลการกระทำที่เกิดจากการช่วยเหลือสังคมหรือจากการกระทำคุณความดี ก็ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจ ผู้กระทำนั้นก็มีความสุขใจ ภาคภูมิใจ และยังเป็นที่ยอมรับของคนอื่นด้วย |
| |
5. | ฝึกยอมรับและเข้าใจธรรมชาติของชีวิต ตามหลักพุทธศาสนาสอนว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีเกิดขึ้น ..ตั้งอยู่..และดับไป ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ และเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ การฝึกตนเองมีสุขภาพจิตดีนั้น คงไม่ยากเกินไปที่จะนำไปปฏิบัติ เริ่มต้นเสียแต่ตอนนี้ ใช้ความพยายามวักนิด คิดว่าคงไม่เกินความสามารถของแต่ละคนอย่างแน่นอน แล้วท่านก็จะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีสุขภาพจิตดี มีชีวิตที่เป็นสุขคะ |
| |
| |
“สร้างสุขด้วยรอยยิ้ม” “สยามเมืองยิ้ม |
|
|
เป็นคำที่คุ้นหูเราชาวไทยเป็นอย่างดี เพราะนั่นดี เอกลักษณ์ประจำชาติที่ฝากไว้ ให้เป็นความประทับใจของผู้ที่พบเห็น “ยิ้ม” เมื่อได้ยินคำคำนี้ ย่อมรู้สึกดียิ่ง เพราะอานุภาพของรอยยิ้มทำให้เราสดชื่น ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจ บางครั้ง บรรยากาศของการทำงานรีบเร่ง หงุดหงิด วุ่นวายได้ เช่นกัน รอยยิ้มทำให้โลกสดใส รอยยิ้มทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น ร้อยยิ้มทำให้มีความสุขเชื่อมั่น กับคำกล่าวต่าง ๆ ที่เมื่อฟังแล้ว ทำให้มองเห็นคุณค่าของ “รอยยิ้ม” การให้บริการรอยยิ้ม เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง เริ่มต้นจากที่ทำงาน เราคงรู้สึกไม่สบายแน่ หากเช้าที่สดใส กลับกลายเป็นบรรยากาศที่เลวร้าย เมื่อเพื่อนร่วมงานมีอารมณ์ หงุดหงิด เคร่งเครียด มองดูแล้วสับสนวุ่นวาย ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดวุ่นวายตามไปด้วย มองย้อนกลับอีกมุมหนึ่ง กับบรรยากาศตอนเช้าที่สดใส เริ่มต้นกับการทักทายด้วยรอยยิ้ม การทำงานย่อมดำเนินไปอย่างราบรื่นมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพราะทุกคนต่างสนุกสนานกับงานที่ทำไม่เคร่งเครียด และทำงานด้วยความมุ่งมั่น เต็มความสามารถ |
|
|
การให้บริการผู้คน เป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้คนมากมาย ต่างจิตต่างใจ ดังนั้น เราควรสร้างงานบริการของเรา ให้เกิดความประทับใจแก่เขามากที่สุด รอยยิ้ม เป็นสิ่งสำคัญในการให้บริการเพราะผู้ที่มารับบริการ เขาย่อมต้องการความช่วยเหลือ ต้องการคำแนะนำหรือคำปรึกษาต่าง ๆ และคงไม่แน่เมื่อเขาเข้ารับบริการแล้ว ต้องพบกับความวุ่นวาย เคร่งเครียด หรืออาการหงุดหงิดโมโหร้าย ต่างๆ นานา ของผู้ให้บริการ หากมองย้อนกลับอีกมุมหนึ่ง เมื่อเราเป็นผู้รับบริการ เราคงไม่ต้องการพบสภาพปัญหาที่วุ่นวาย ไม่ต้องการพบคำว่าทักทายที่รุนแรง หรือการให้บริการต่างๆ การให้คำแนะนำ หรือคำปรึกษา ที่มาจากความจริงใจ ดังนั้น ร้อยยิ้มที่ดูสดใส ย่อมทำให้ผู้รับบริการประทับใจในการให้บริการ และกลับไปด้วยความสบายใจ |
|
|
สภาพแวดล้อมทางสังคมดีขึ้นไปด้วย หากการให้บริการต่าง ๆ เป็นการให้บริการด้วย ร้อยยิ้ม ปัญหาวุ่นวายต่าง ๆ นานา คงลดน้อยถอยลงไป ความเคร่งเครียด สับสน วุ่นวาย อารมณ์หงุดหงิด โมโหร้ายย่อมถูกทำลายไปด้วยอานุภาพของร้อยยิ้มที่สดใส รอยยิ้ม เปรียบเสมือนแรงผลักดันที่ทำให้เรามีกำลังใจสร้างงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้ รอยยิ้ม อยู่คู่ไทยต่อไป และหวังว่า คงไม่มีสิ่งใดที่จะมาทำลายความเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยได้อย่างแน่นอน หากคนไทยยังมี รอยยิ้ม ให้กัน
ให้ความรักความเข้าใจก่อนที่แผ่นดินไทยจะไม่มีใครดูแล |
|
|
ให้ความรัก ความเข้าใจ ก่อนที่แผ่นดินไทย จะไม่มี ใครดูแล กับคำขวัญสั้น ๆ ที่เขียนเตือนใจให้คิดถึงระเทศชาติ ยาเสพติด ภัยร้ายที่คุกคามกระจัดกระจาย และเริ่มแผ่อำนาจมืดในทุกซอกมุมสังคม จะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดยเร่งด่วย เยาวชน ซึ่งถือได้ว่าเป็นมันสมองอันสำคัญยิ่งของประเทศชาติ กำลังจะถูกทำลายด้วยภัยสังคมของยาเสพติด แล้วใครละ จะเป็นผู้แก้ไข |
|
|
มุมหนึ่งของสังคม กับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ย่อมเป็นสิ่งที่ท้าทายอยู่ไม่น้อยเมื่อคำขวัญเตือนใจ ข้างซองบุหรี่ ไม่ได้สร้างความวิตกกังวลต่อผู้ใช้ อิทธิพลการแผ่กระจายของยาบ้าที่เคียงคู่กันไปกับการกวาดล้างของผู้พิทักษ์สันติราษร์ หรือจะเป็นคำเตือนที่ว่า การดื่มสุราทำให้ไม่สามารถในการขับขี่ยานพาหนะลดลง แต่ดูแล้ว กลับเพิ่มประสิทธิภาพความรุนแรงในการขับเคลื่อนได้มากยิ่งขึ้น สิ่งต่าง ๆ เริมขัดแย้ง จึงทำให้เห็นคุณค่าที่ว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ มากยิ่งขึ้น กอปรกับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำย่ำแย่ เกิดปัญหาการว่างงาน ปัญหาอาชญากรรมเริ่มตามมา เมื่อปัญหาต่าง ๆ รุมล้อมกาย ผู้ที่ประสบกับปัญหาเหล่านั้น ย่อมแก้ไขปัญหาโดยการใช้ยาเสพติดเป็นที่พึ่ง จึงทำให้ผู้ติดสารเสพติดมีจำนวนมากขึ้นด้วย ดังนั้นเมื่อจำนวนผู้ใช้สารเสพติดมีจำนวนมากกว่าที่ต้องการจะทำลาย สารเสพติด ย่อมให้กำลังใจจากผู้ใช้มากขึ้น แล้วผลกระทบมาคืออะไร |
|
|
เชื่อว่า หลายต่อหลายคน คงไอยากเสียคนที่ตนรัก หลายต่อหลายคน คงไม่อยากเสียน้ำตาให้กับยาเสพติด อย่าคิดว่าปัญหายาเสพติด ไม่ใช่เรื่องที่ตนต้องแก้ไข อย่าเห็นว่าปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องเล็กน้อย ใครจะติดติดไป ใครจะตายช่างมัน แล้วถ้าหากลองมองย้อนกลับไป เมื่อผู้ใช้สารเสพติด เป็นคนที่เรารัก เป็นคนที่เราห่วงใย เป็นบุตรหลาน ญาติพี่น้องของเรา แล้วเราคงไม่ต้องเสียน้ำตาให้กับยาเสพติดหรือก่อนที่สังคมไทยจะถูกทำลาย ก่อนที่ เยาวชน ซึ่งถือได้ว่าเป็นมันสมองอันสมองของประเทศชาติ จะตกเป็นทาสของยาเสพติด ให้ความรัก ความห่วงใย ความเข้าใจ เขาเหล่านั้นสักนิดหยุดคิด ร่วมแก้ไขปัญหา อย่าให้คนที่ต้องเสียน้ำตาให้กับยาเสพติดคนต่อไป ต้องเป็นคุณ |
| |
| |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น